การดูแลสุขภาพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
ผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถมีชีวิตอย่างปกติสุขได้เหมือนคนทั่วไป หากได้รับการรักษาและใช้ยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ มีความเจริญก้าวหน้าไปอย่างมาก อีกทั้งยาต้านไวรัสยังช่วยควบคุมเชื้อเอชไอวี ให้ผู้ติดเชื้อไม่ป่วยง่าย ไม่เป็นโรคฉวยโอกาสและสามารถทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนคนปกติ ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและดูแลตัวเองให้ดีด้วย
แนวทางให้การปฏิบัติตัวของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
สุขภาพกาย
-
ผู้ติดเชื้อควรมีความใส่ใจในสุขภาพร่างกายของตน รักษาสุขภาพให้แข็งแรงและ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
-
เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยมีสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ งดรับประทานอาหารจำพวกไขมันสูง ของมัน ของทอด อาหารรสจัด หรือเนื้อสัตว์ที่สุกๆ ดิบๆ เน้นทานผักผลไม้ หรือศึกษาเรื่องโภชนาการให้มากขึ้น
-
ควรงดเว้นการสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่เป็นตัวกระตุ้น ให้เกิดอาการป่วยแทรกซ้อนได้ง่ายในผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ติดเชื้อ โรคที่พบได้บ่อย คือ โรคปอดอักเสบ โรคมะเร็งปอดหรือหัวใจวาย เป็นต้น
-
งดเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และสารเสพติดทุกชนิด
-
ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ ควรป้องกันด้วยการใช้ถุงยางอนามัยเสมอ หรือแจ้งคู่นอนประจำให้ป้องกันเพิ่มเติมอีกขั้นด้วย ยาเพร็พ (PrEP)
-
รับประทานยาต้านไวรัสให้ตรงเวลา สม่ำเสมอ หากลืมทานยาในวันนั้น ให้รีบทานทันทีที่นึกขึ้นได้ ส่วนวันต่อไปให้ยึดตามเวลาเดิม การรับประทานยาต้านไวรัสอย่างเคร่งครัดจะช่วยควบคุมเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น และไม่เกิดอาการดื้อยา
-
พึงระวังในการใช้ยารักษาโรคอื่นๆ รวมทั้งการรับประทานสมุนไพรหรืออาหารเสริมบางชนิดเพราะอาจส่งผลต่อเชื้อไวรัสเอชไอวีและสุขภาพของคุณได้
-
งดบริจาคเลือด
-
ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง หรือหากมีอาการป่วยให้รีบพบแพทย์
-
หากต้องการวางแผนครอบครัวหรือมีบุตรควรปรึกษาแพทย์
สุขภาพจิต
-
ควรทำความเข้าใจกับตัวเองก่อน รักตัวเองและยอมรับความจริงว่าการติดเชื้อเอชไอวีนั้นไม่ทำให้เสียชีวิตโดยง่าย อาจเลือกพูดคุยหรือระบายความในใจกับบุคคลที่ตนเองไว้ใจและพร้อมจะรับฟัง เช่น คนในครอบครัว แฟนหรือเพื่อนสนิท หรือหากมีความวิตกกังวล มีอาการซึมเศร้าก็สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เกี่ยวกับเอชไอวี หรือปรึกษาจิตแพทย์เพื่อปรับความคิดในการดำเนินชีวิต สร้างคุณค่าให้กับตัวเองทำให้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
-
ฝึกทำสมาธิ เพื่อช่วยให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน รู้สึกผ่อนคลายและมีความสบายใจ
-
ค้นหางานอดิเรกที่ชอบทำหรือทำในสิ่งที่มีความสุข ช่วยบรรเทาความเครียด


ผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในครอบครัว หรือในสถานที่ทำงานได้ เพราะเชื้อไวรัสเอชไอวีไม่สามารถส่งผ่านกันได้โดยการกอด การสัมผัส การหายใจ การใช้ห้องน้ำร่วมกัน เพียงแต่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในสุขอนามัยที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี หากรับประทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ จนเชื้อลดลงจนแทบตรวจไม่พบหรือที่ทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่า U=U ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติทั่วไปและยังไม่สามารถแพร่เชื้อ HIV ให้แก่คนอื่นได้อีกด้วย